สำหรับผู้ประกอบการ SME เมื่อธุรกิจโตได้ระดับหนึ่งแล้ว อาจจะเริ่มคิดถึงการ จดทะเบียนบริษัท ซึ่งก็อยู่ที่ว่าผู้ประกอบการนั้นได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร แล้วต้องไปจดทะเบียนในประเภทไหน โดยจะกล่าวถึงในบทความนี้ให้ได้รู้จักกับเกี่ยวกับประเภทในการ จดทะเบียนบริษัท  

ประเภทของการ จดทะเบียนบริษัท 

ในส่วนของประเภทการ จดทะเบียนบริษัท สามารถกล่าวได้ดังนี้ 

จดทะเบียนบริษัท เป็นทะเบียนพาณิชย์ (บุคคลธรรมดา) 

เป็นการจดทะเบียนบริษัทแบบธุรกิจเจ้าของคนเดียว คิดเอง ทำเอง มีอิสระและตัดสินใจได้เต็มที่เกี่ยวกับธุรกิจ หรือ เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่ขายสินค้าหรือบริการได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก มูลค่าของธุรกิจไม่สูงมากนัก ข้อดีคือ ผู้ประกอบการจะได้รับกำไรเต็มจำนวนและเสียภาษีโดยการคำนวณอัตราภาษีหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วเท่านั้น แต่ถ้าธุรกิจขาดทุนก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง 

จดทะเบียนบริษัท เป็นนิติบุคคล 

สำหรับธุรกิจที่มีผู้ประกอบการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปได้ลงทุนร่วมกัน ทุกการกระทำจะเป็นในนามของธุรกิจทั้งหมด ข้อดีคือภาษีรายได้สูงสุดที่ต้องชำระคือ 20% ซึ่งน้อยกว่าการจดทะเบียนบริษัทพาณิชย์ ข้อเสียคือการดำเนินการอาจล่าช้าเพราะมีผู้มีอำนาจตัดสินใจมาก การจดทะเบียนนิติบุคคลมี 3 ประเภท แบ่งตามความรับผิดแบบ “จำกัด” หรือ “ไม่จำกัด” ดังนี้  

  • ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามัญ คือ ธุรกิจที่มีผู้ประกอบการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนนิติบุคคลก็ได้ ความรับผิดของหุ้นส่วนมีเพียงประเภทเดียวคือผู้รับผิดชอบในหนี้ คู่ค้าแบบ ไม่จำกัด สามารถตกลงทำธุรกิจร่วมกันและแบ่งผลกำไรจากธุรกิจได้เช่นกัน แต่ถ้ากิจการขาดทุน ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะต้องรับผิดชอบในหนี้สินร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนห้างหุ้นส่วนจำกัด  
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด คือ ธุรกิจที่มีผู้ประกอบการตั้งแต่สองคนขึ้นไป ความรับผิดของหุ้นส่วนแบ่งออกเป็นสองประเภท จำกัด และ ไม่จำกัด ผู้ที่รับผิดชอบหนี้สิน “จำกัด” ไม่สามารถตัดสินใจในธุรกิจได้ และผู้รับผิดชอบหนี้ ไม่จำกัดจำนวน จะมีสิทธิตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ในทุกธุรกิจ หากธุรกิจสูญเสียห้างหุ้นส่วนจำกัด ไม่ต้องเสียภาษีบริษัท บริษัทจำกัด คือ ธุรกิจที่มีผู้ประกอบการตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป จะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ความรับผิดของหุ้นส่วนมีเพียงประเภทเดียว ประเภทที่ต้องรับผิดชอบหนี้แบบ จำกัด ไม่เกินจำนวนราคาหุ้นที่เป็นหนี้ ธุรกิจประเภทนี้ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี มีแผนธุรกิจที่รัดกุม และมีการบริหารจัดการในรูปแบบคณะกรรมการเพื่อให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ 

จากที่กล่าวมาทั้งหมดสามารถทราบประเภทของ จดทะเบียนบริษัท โดยแต่ละประเภทนั้นจะมีลักษณะและความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน หากเป็นแบบพาณิชย์ก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า มีอิสระในการดำเนินธุรกิจที่มากกว่าเพราะทำคนเดียว แต่ต้องรับผิดชอบคนเดียว ส่วนแบบนิติบุคคลจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า แต่ดำเนินการถึง 2 คนขึ้นไป และต้องรับผิดชอบร่วมกัน